Redbrick แพลตฟอร์มสร้าง Metaverse ประกาศเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมว่า บริษัทได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) สำหรับความร่วมมือทางธุรกิจบน Metaverse บน Web 3.0 กับ Alibaba Cloud ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการคลาวด์หลักด้านเทคโนโลยีดิจิทัลภายใต้กลุ่ม Alibaba Group Redbrick วางแผนที่จะเพิ่มขนาดของตลาดเศรษฐกิจสำหรับผู้สร้าง Metaverse โดยการขยายไปยังภูมิภาคเอเชีย รวมถึงประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น จีน และอื่นๆ
ด้วยการร่วมมือกับ Alibaba Cloud ซึ่งมีรากฐานธุรกิจ B2B และ B2C ที่มั่นคงในเอเชีย Redbrick จะเข้าสู่ตลาด Metaverse ในเอเชียอย่างจริงจัง ใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และปรับขนาดได้สูงของ Alibaba Cloud ทำให้ Redbrick สามารถจัดหาเครื่องมือสร้างซอฟต์แวร์ที่อำนวยความสะดวกในการพัฒนาเกม 2 มิติและ 3 มิติ และเนื้อหา metaverse และจัดหาแพลตฟอร์มสำหรับการแบ่งปันเนื้อหาดังกล่าว ตามข้อมูลของ Gartner อาลีบาบาคลาวด์เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ IaaS ที่มีส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และในบรรดาผู้ให้บริการคลาวด์สาธารณะทั่วโลก ก็มีศูนย์ข้อมูลระดับภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นอกจากนี้ Redbrick และ Alibaba Cloud วางแผนที่จะร่วมกันส่งเสริมบริการ Metaverse ที่ใช้ SaaS ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะนี้ Redbrick กำลังหารือเกี่ยวกับความร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัทต่างๆ ในมาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์
YANG YEONGMO CEO ของ Redbrick กล่าวว่า "เอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงสิงคโปร์เป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีความสนใจใน Metaverse มากที่สุดในโลก" "การขยายตลาดเศรษฐกิจของผู้สร้างเป็นพื้นฐานสำหรับการผลิตเนื้อหาคุณภาพสูงซึ่งเป็นเหตุผลที่เรา กำลังพยายามเข้าสู่เอเชียและตลาดโลกอย่างจริงจัง” Unique Song ผู้จัดการทั่วไปของ Alibaba Cloud Smart เกาหลีและญี่ปุ่นกล่าวว่า “Alibaba Cloud มีข้อได้เปรียบในเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse หรือ Web 3.0” “เราจะทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อม เพื่อช่วยให้บริษัทภายในประเทศที่โดดเด่นอย่าง Redbrick เข้าสู่ตลาดโลก"
ความคิดเห็นทั้งหมด